สิวที่คาง เกิดจากอะไร
อัปเดตเมื่อ 23 ส.ค. 2564
หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า "เรื่องสิว เป็นเรื่องธรรมชาติ" ใช่ไหมคะ แต่ทราบไหมคะว่า คนที่เป็นสิว ไม่อยากให้ธรรมชาติแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ยิ่งถ้าสิวที่เกิดขึ้นเป็นแล้วไม่หาย ขึ้นแล้วขึ้นอีก ยิ่งทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล การสูญเสียความมั่นใจกับหลายๆคนเลยนะคะ วันนี้หมอจะมาอธิบายปัญหาสิวที่คาง ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้างมาฝากค่ะ
กระบวนการที่ทำให้เกิดสิว หลักๆแล้วเกิดจากการที่ผิวหนังของเรามีการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตัน สามารถเกิดได้จากการขี้ไคลของผิวหนัง คราบไขมันบนผิวหนัง เครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองที่มาอุดตันรูขุมขน ซึ่งโดยปกติแล้ว บริเวณที่ผิวหนังเกิดสิวได้ง่าย ก็คือบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก ได้แก่ บริเวณ T-ZONE ของใบหน้า ผิวช่วงหน้าอก และแผ่นหลัง นั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังเกิดได้จากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังที่เป็นสาเหตุของสิวร่วมด้วย
สิวที่คาง สามารถพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายนะคะ แต่มักจะพบบ่อยในกลุ่มวัยรุ่น และคุณผู้หญิงมากกว่ากลุ่มอื่นๆนะคะ ซึ่งสาเหตุกระตุ้นสิวที่คางนั้น สาเหตุหลักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ช่วงใกล้มีรอบประจำเดือนเดือน ช่วงที่มีความเครียด หรือ มีการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะทำให้สิวที่คางเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าช่วงปกติค่ะ โดยฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุหลักคือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่ส่งผลให้เกิดการสร้าง sebum มากขึ้น ทำให้ผิวมัน และเกิดการอุดตันรูขุมขนได้ง่ายนั่นเองค่ะ
แน่ใจไหมว่าเป็นสิวที่คาง?
ก่อนที่จะเริ่มการรักษาสิวที่คาง หมอต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนะคะว่า ตุ่มที่เกิดขึ้นบนผิวหนังนั้น ใช่สิวจริงหรือไม่ เพราะบางกรณีอาจจะไม่ใช่สิว แต่อาจจะเป็นอาการของโรคผิวหนังอื่นได้แก่
1.ขนคุด โดย ขนคุดมักจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงนะคะ เกิดจากการโกนขนหนวดเครา บริเวณคางและแนวกรามที่ผิดวิธี เช่น การใช้ใบมีดโกนหลายใบมีด ทำให้เกิดการตัดขนใต้ชั้นผิวหนัง ใบมีดทื่อเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง จึงทำให้เกิดขนคุดตามมาได้ โดยสามารถพบเป็นตุ่มแดง ขึ้นบริเวณรูขุมขนแนวคางและกราม บางกรณีมีอาการเจ็บ และอักเสบเป็นหนองขึ้นได้ค่ะ
2.Rosasea เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการผิดปกติของเส้นเลือดของผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแดง ตุ่มแดงอักเสบบริเวณคางได้เช่นเดียวกันค่ะ
สิวที่คาง รักษาอย่างไรได้บ้าง
การดูแลความสะอาดผิวหนังอย่างถูกวิธี
ทำความสะอาดใบหน้าเช้าเย็นด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหนังที่เป็นสิวและผิวบริเวณคาง เพื่อป้องกันการอักเสบ
ทำความสะอาดยาสระผมและครีมนวดหลังการสระผมให้หมด และพยายามอย่าให้สัมผัสกับผิวบริเวณคาง
ทำความสะอาดใบหน้าก่อนนอนทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการนอนที่มีเครื่องสำอางบนใบหน้า
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่จำเป็น ช่วงที่มีสิว หรือ ภาวะที่เป็นสิวง่าย
หลีกเลี่ยงการขัดถูใบหน้า เพราะอาจทำให้สิวอักเสบ หรือ เห่อมากขึ้น
การรักษาด้วยการทายา ได้แก่ การใช้ยาทาลดการอุดตันของสิว เช่น Benzoyl Peroxide , Retinoic acid ร่วมกับยาปฏิชีวนะแบบทา เพื่อช่วยลดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังที่ทำให้เกิดสิว
การรับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยลดการอักเสบ และทำลายเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว
การรับประทานยาคุมกำเนิด เพื่อ ควบคุมระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนให้อยู่ในสภาวะปกติ
การรับประทานยากลุ่ม Isotretinoin เพื่อช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดการอักเสบของสิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบรุนแรง หรือสิวที่ดื้อยา
การรักษาด้วยการกดสิว ฉีดสิวอักเสบ เพื่อช่วยลดสิวอักเสบ หรือสิวหัวซิสต์
การรักษาด้วย IPL เพื่อช่วยลดการอักเสบของสิวและลดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว
การรักษาด้วย MADE COLLAGEN เพื่อช่วยดีท็อกซ์ และลดสิว
MADE COLLAGEN ช่วยอะไรผิวบ้าง เหมาะกับผิวมีปัญหาอะไร (คลิก)
ไม่อยากเป็นสิวที่คาง ต้องทำอย่างไรบ้าง
หมั่นทำความสะอาดใบหน้าเช้าเย็น และ หลังเหงื่อออก
ดูแลทำความสะอาดผม และพยายามอย่าให้ผมสัมผัสผิวบริเวณคางหรือกราม
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่กระตุ้นให้เกิดสิว หรือ อุดตันรูขุมขนง่าย เช่น ครีมที่มีน้ำมันผสมมาก เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อเซรั่ม เจล หรือ โลชั่นแทน
ทำจิตใจให้แจ่มใส ลดความเครียด เพื่อสมดุลฮอร์โมน
พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง
งดอาหารที่มี Glycemix Index สูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม
ทำความสะอาดปลอกหมอนและผ้าห่มเป็นประจำ
งดการลูบจับผิวบริเวณคางหรือแนวกราม
กำจัดขนบริเวณคางอย่างอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ นัดหมายปรึกษาได้ทาง
โทร 02-4260096
facebook : https://web.facebook.com/ssbclinic
line : https://lin.ee/UFj6Sw8