top of page

วิตามินซี ที่เรารับประทานอยู่ เพียงพอหรือยัง

อัปเดตเมื่อ 23 ส.ค. 2564


วิตามินซี ที่เราทานอยู่เพียงพอหรือยัง

วิตามินซี ที่เรารับประทานอยู่เพียงพอหรือยัง



ในช่วงที่โรคภัยต่างๆกำลังระบาด โดยเฉพาะไวรัสโคโรน่า ที่ทำให้เกิดโรค COVID-19 ระบาดอยู่ช่วงเวลานี้นะคะ การสร้างเกราะป้องกันให้ร่างกายของเราก็คือ การหมั่นล้างมือบ่อยๆ การมีระยะห่างระหว่างกัน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค ไม่เจ็บป่วยง่ายนั่นเองค่ะ


การจะสร้างภูมิต้านทานให้เราแข็งแรงนั้น นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่ขาดไม่ได้ก็คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานนั่นเองค่ะ


วันนี้หมอจะขอพูดถึง วิตามินซี นะคะ ใครๆก็คงรู้จักสรรพคุณของวิตามินซี ที่ช่วยให้ร่างกายเราไม่เป็นหวัดง่าย ยิ่งสาวๆจะนิยมรับประทาน เพราะช่วยในการชะลอริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส วันนี้เรามารู้จักวิตามินซี แบบเจาะลึกกันดีกว่าค่ะ และเราจะได้รู้ว่าวิตามินซี ที่เรารับประทานอยู่เพียงพอกับการเสริมสร้างภูมิต้านทานหรือยัง


วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน บำรุงผิว ชะลอการเสื่อมของเซลล์ภายในร่างกาย อีกทั้งยังอาจช่วยบรรเทาอาการจากการติดเชื้อไวรัสได้ด้วย



VITAMIN C


ประโยชน์ของวิตามินซี


1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน


จากการศึกษาพบว่าวิตามินซีมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวของร่างกาย ซึ่งอาจช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น โดยวิตามินชนิดนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแรงและป้องกันความเสียหายของเม็ดเลือดขาวที่เป็นผลมาจากสารอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ได้อีกด้วย


ดังนั้น หากได้รับวิตามินซีก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือสูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดขาวและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงจนทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดโรคหรือทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้ค่ะ


2. ชะลอการเสื่อมของเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ


วิตามินซีเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถต่อต้านและลดระดับของสารอนุมูลอิสระได้ เมื่อสารอนุมูลอิสระในร่างกายลดลงและกลับมาอยู่ในระดับปกติ ร่างกายก็มีความสมดุลมากขึ้น จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบและความเสียหายเรื้อรังของเซลล์ภายในร่างกาย


3. บรรเทาอาการโรคหวัด


หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการได้รับวิตามินซีเป็นประจำช่วยป้องกันหวัดได้ แต่ในปัจจุบันสรรพคุณป้องกันโรคหวัดของวิตามินซีในกลุ่มคนทั่วไปนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด ถึงอย่างนั้น การได้รับวิตามินชนิดนี้อย่างเพียงพออยู่เป็นประจำอาจช่วยลดความรุนแรงของโรคหวัด และยังอาจช่วยย่นเวลาการรักษาตัวจากโรคหวัดได้ นอกเหนือจากโรคหวัดแล้ว วิตามินซียังอาจช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้ออื่น ๆ อย่างโรคปอดอักเสบหรือโรคปวดบวมได้เช่นกันด้วย


แต่ในผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอาจเป็นไปได้ว่าการบริโภควิตามินชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหวัด เนื่องจากมีการศึกษาขนาดใหญ่พบว่า การได้รับวิตามินซีเป็นประจำทุกวันในผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก อย่างเช่นนักวิ่งมาราธอน นักสกี หรือทหารที่ได้รับการฝึกและออกกำลังอย่างหนัก อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหวัดได้จริง


4. บำรุงผิวให้สวยและแข็งแรง


หลักฐานวิทยาศาสตร์บางส่วนพบว่าวิตามินซี อาจช่วยสร้างเกราะและเสริมความแข็งแรงให้กับผิว ซึ่งช่วยป้องกันแสงยูวีจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาผิว อีกทั้งยังอาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวยืดหยุ่น จึงอาจช่วยชะลอการเกิดลดริ้วรอยได้ รวมไปถึงยังอาจช่วยให้แผลบริเวณผิวหนังสมานตัวไวและหายได้เร็วขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ไม่ได้รับวิตามินชนิดนี้อย่างเพียงพออาจมีแนวโน้มที่ผิวจะอ่อนแอและเกิดปัญหาผิวสูงกว่าผู้ที่ได้รับวิตามินเป็นประจำ



BEAUTY WITH VITAMIN C

วิตามินซีนั้น มีในอาหารอะไรบ้าง ?


วิตามินซีเป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง แต่จะได้รับวิตามินซีจากอาหาร โดยมีผักและผลไม้หลายชนิดที่มีปริมาณวิตามินซีค่อนข้างสูง เช่น ส้ม แคนตาลูป ฝรั่ง สตรอเบอรี่ มะเขือเทศ กีวี่ บร็อคโคลี่ กะหล่ำปลี พริกหยวก ค่ะ


FRUITS CONTAIN VITAMIN C


ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำในแต่ละวันของคนไทย


  • ในผู้ใหญ่ ที่มีสุขภาพแข็งแรงปกติ ปริมาณที่แนะนำ 100 มก./วัน

  • ในผู้หญิงที่มีสุขภาพแข็งแรงปกติ แนะนำให้รับปริมาณ 85 มก./วัน หากตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรแนะนำให้ได้รับเพิ่ม 10-60 มก./วัน

  • ผู้ป่วยที่ผ่าตัด ควรได้รับวิตามินซี 200-500 มก./วัน เนื่องจากร่างกายต้องการวินตามินซีมากขึ้น


ปริมาณสูงสุดที่รับได้ไม่ควรเกิน 2,000 มก./วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้ ปวดเกร็งช่องท้องและท้องเสีย แต่ก็ถือว่ามีความเป็นพิษน้อยมากเนื่องจากร่างกายมีการดูดซึมได้ลดลงหากได้รับในปริมาณที่สูงขึ้นและจะขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ


วิตามินซีสามารถป้องกันหวัดได้จริงหรือไม่


มีข้อมูลวิเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องบอกว่าการรับประทานวิตามินซี ไม่ได้ช่วยในการรักษาและป้องกันไข้หวัด แต่อาจมีประโยชน์ในการลดระยะเวลาของการเป็นหวัด พบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำมากกว่า 200 มก./วัน ทำให้ระยะเวลาที่เป็นหวัดลดลง 8% ในผู้ใหญ่ และ 14%ในเด็ก

ซึ่งการศึกษามีข้อมูลว่า หากรับประทานวิตามินซีปริมาณ 1,000-2,000 มก./วัน ระยะเวลาการป่วยจะลดลง 18%


แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับประทานวิตามินซีมาก่อน แต่อยากจะรับประทานเมื่อเริ่มมีอาการเป็นหวัด จะไม่มีประโยชน์ในการลดระยะเวลาของการป่วยหรือลดความรุนแรงนะคะ ดังนั้นเราควรรับประทานวิตามินเป็นประจำ แทนการรับประทานในช่วงที่เป็นหวัดเท่านั้นนะคะ



COMMON COLD


ดังนั้นหมอขอแนะนำให้เราเลือกรับประทานอาหารให้ครบถ้วนทุก 5 หมู่อย่างสม่ำเสมอ เน้นอาหารที่เพิ่มภูมิต้านทาน ได้แก่ ผักและผลไม้ ที่มีวิตามินสูงนะคะ และที่สำคัญควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เป็นประจำค่ะ


ด้วยความรักและปรารถนาดี จากหมอไก่ค่ะ

ดู 166 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page