top of page

รู้จักฟิลเลอร์ ก่อนตัดสินใจฉีด

อัปเดตเมื่อ 23 ส.ค. 2564


รู้จักฟิลเลอร์ ก่อนตัดสินใจฉีด

การฉีดฟิลเลอร์คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์คือ การฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้ริ้วรอย ร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องแก้ม ร่องลึกริมฝีปากให้ตื้นขึ้น หรือใช้แก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปากหรือร่องแก้มให้ดูอวบอิ่ม การแก้ไขขมับที่ตอบลง แก้ไขรูปคางให้สมดุลกับใบหน้า เป็นต้น


ชนิดของฟิลเลอร์แบ่งตามการคงตัวหลังฉีด


  • การฉีดสารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler) เช่น สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) สารคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับ HA ที่มีอยู่แล้วในผิวหนัง โดยสารเติมเต็มแบบชั่วคราวที่ใช้ในปัจจุบันนี้ เป็นชนิดที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือแพ้น้อยมาก เมื่อฉีดเข้าบริเวณที่ต้องการแก้ไขแล้วจะคงอยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน จัดว่ามีความปลอดภัยสูงและสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ


  • การฉีดสารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เช่น สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) สารเติมเต็มกลุ่มนี้เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้น แต่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อผิวหนัง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีอายุยาวกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว อาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง แต่ที่ต้องระวังคือ สารที่ให้ผลยาวนานกว่ามีแนวโน้มจะเกิดผลข้างเคียงมากกว่า จึงไม่แนะนำให้นำมาใช้เติมเต็มใบหน้า


  • การฉีดสารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน จะให้ผลลัพธ์แบบถาวรโดยไม่สามารถสลายออกเองได้ การฉีดสารประเภทนี้ระบุผลข้างเคียงในระยะยาวไม่ได้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง มีการอักเสบ หรือถึงขั้นทำให้บริเวณที่ฉีดเปลี่ยนรูปไป จึงไม่แนะนำให้ฉีดสารชนิดนี้


"ฟิลเลอร์ที่มีบริการที่ SSB clinic เป็นสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (HA) เท่านั้น ซึ่งสามารถสลายตัวได้ 100% และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานอย.ของประเทศไทยและสากลแล้วเท่านั้น ทางคลินิกสั่งตรงจากบริษัทที่นำเข้าจากผู้ผลิตโดยตรง (distributor) จึงมั่นใจได้ว่าไม่มียาปลอมยาหิ้วแน่นอนค่ะ"


ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ของประเทศไทย


ปัจจุบันปี 2020 มี 5 ยี่ห้อ ได้แก่

Restylane, Juvederm, Belotero, Perfectha และ Neuramis

ฟิลเลอร์แต่ละชนิดเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกทำกับแพทย์ผิวหนังที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยค่ะ



filler ssbclinic



วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์อย่างง่ายๆ


ปกติแล้วแพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้าคนไข้ เพื่อให้คนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อจะมี Lot Serial No. รวมถึงหมายเลขอ้างอิงต่างๆ ซึ่งจะตรงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้ากล่อง ในกล่อง หรือตัวเข็มสามารถเช็กฟิลเลอร์แท้ได้ โดยนำเลข Serial No. ไปสอบถามบริษัทที่นำเข้าหรือผลิตได้ค่ะ


filler ssbclinic




ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์


  • เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น

  • สามารถปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้รูป โดยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มโครงสร้างใบหน้าที่มีจุดบกพร่อง หรือมีร่องริ้วรอย จากการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในผิวหนัง เช่น ริ้วรอย ร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก แก้มตอบ หลุมสิว ให้เต่งตึงมาก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ในทันทีที่ฉีด

  • แก้ปัญหารอยแผลเป็น และยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อได้อีกด้วย

  • การฉีดฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารจากธรรมชาติที่สามารถสลายได้เอง ไม่มีปัญหาตกค้างในร่างกาย และมักไม่ทำให้เกิดอาการแพ้อีกด้วย



ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์


  • หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือมีความเสี่ยงในบริเวณที่ฉีดได้

  • หากฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายออกเองได้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนจนเกิดพังผืด ซึ่งจะต้องไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขเท่านั้น

  • การฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือเลือกสถานพยาบาลที่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะตำแหน่งที่ฉีดถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้คุณภาพของสารฟิลเลอร์ หากไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกายวิภาค อาจฉีดในจุดที่ไม่ควรฉีดและทำให้เกิดผลข้างเคียงได้


filler ssbclinic


วิธีดูแลตนเองก่อนฉีดฟิลเลอร์


  • งดการรับประทานยาหรืออาหารเสริมในกลุ่ม สารสกัดใบแปะก๊วย น้ำมันปลา (fish oil) วิตามินอี ยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน ที่ทำให้เลือดหยุดไหลช้า ควรงดวิตามินเสริมในกลุ่มนี้ก่อนการรักษา 1 สัปดาห์

  • หากกำลังรับประทานยา หรือมีประวัติการแพ้ยาใดๆ ก็ตาม จะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบล่วงหน้า


วิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์


  • หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอได้

  • ห้ามกดทับบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์

  • ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ให้งดการแต่งหน้า รวมทั้งงดการทาสารที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือวิตามินซี

  • ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด ควรงดการออกกำลังกายแบบหักโหม และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือการทำเลเซอร์หลังการรักษาภายใน 2 สัปดาห์แรกหลังการฉีด

  • ควรดื่มน้ำเปล่า วันละประมาณ 8-10 แก้ว เพ่อให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพเต็มที่

  • ลดอาหารที่มีรสเค็ม เพื่อลดอาการบวมหลังฉีด

  • หากมีอาการปวดบริเวณที่ฉีดมากผิดปกติ หรือ คลำได้ก้อน ควรปรึกษาแพทย์

  • อาจมีรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังฉีดได้ โดยสามารถประคบเย็นหลังฉีดไป 24 ชั่วโมงแรก และสามารถประคบด้วยน้ำอุ่นหลัง 24 ชั่วโมงแรก

  • หากมีรอยดำม่วงคล้ำบริเวณที่ฉีดไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์

หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องดูแลอย่างไร อาการแบบไหนควรต้องมาพบแพทย์ ติดตามได้ในคลิปเลยค่ะ





ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์


  • ปัจจุบันมีสารที่มีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์ออกมามากมาย ซึ่งไม่ได้ถูกรับรองตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา จึงควรขอแพทย์ตรวจสอบฟิลเลอร์ทุกครั้งก่อนฉีด เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น

  • ควรใช้บริการจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเลือกสถานให้บริการที่ได้มาตรฐาน และเชื่อถือได้

  • ห้ามฉีดฟิลเลอร์ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก


ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ หรือ นัดหมายปรึกษาได้ทาง

ดู 664 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page